การส่งเสริมพัฒนาการและการปรับพฤติกรรม
เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
•เพื่อให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน
•ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด
เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
•เพื่อให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน
•ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด
•เน้นการดูแลแบบองค์รวม (Holistic Approach)
•เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม
การสื่อสาร และทักษะทางความคิด
•เกิดผลดีในระยะยาว
•เน้นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เด็กสามารถใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆแทนการฝึกแต่เพียงทักษะทางวิชาการ
•แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
(Individualized Education Program; IEP)
•โรงเรียนการศึกษาพิเศษเฉพาะทาง โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน
2.การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
•การฝึกฝนทักษะในชีวิตประจำวัน
(Activity of Daily Living Training)
•การฝึกฝนทักษะสังคม (Social Skill Training)
•การสอนเรื่องราวทางสังคม (Social Story)
3. การบำบัดทางเลือก
•การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
•ศิลปกรรมบำบัด (Art Therapy)
•ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
•การฝังเข็ม (Acupuncture)
•การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)
การสื่อความหมายทดแทน
(Augmentative and Alternative Communication ; AAC)
•การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies)
•โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (Picture Exchange Communication System; PECS)
•เครื่องโอภา (Communication Devices)
•โปรแกรมปราศรัย
Picture Exchange
Communication System
(PECS)
บทบาทของครู
•ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้นั่งติดหน้าต่างหรือประตู
•ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
•จัดให้เด็กนั่งติดกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
•ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง
การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
1. ทักษะทางสังคม
•เด็กพิเศษที่ขาดทักษะทางสังคม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการพ่อแม่
•การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าเด็กจะมีพัฒนาการต่างๆอย่างมีความสุข
กิจกรรมการเล่น
•การเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ทักษะทางสังคม
•เด็กจะสนใจกันเองโดยอาศัยการเล่นเป็นสื่อ
•ในช่วงแรกๆ เด็กจะไม่มองเด็กคนอื่นเป็นเพื่อน แต่เป็นอะไรบางอย่างที่น่าสำรวจ สัมผัส ผลัก ดึง
ยุทธศาสตร์การสอน
•เด็กพิเศษหลายๆคนไม่รู้วิธีเล่น ไม่รู้ว่าจะเล่นอย่างไร
•ครูเริ่มต้นจากการสังเกตเด็กแต่ละคนอย่างเป็นระบบ
•จะบอกได้ว่าเด็กมีทักษะการเล่นแบบใดบ้าง
•ครูจดบันทึก
•ทำแผน IEP
การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง
•วางแผนกิจกรรมการเล่นไว้หลายๆอย่าง
•คำนึงถึงเด็กทุกๆคน
•ให้เด็กเล่นเป็นกลุ่มเล็กๆ 2-4 คน
เด็กปกติทำหน้าที่เหมือน “ครู” ให้เด็กพิเศษ
ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น
•อยู่ใกล้ๆ และเฝ้ามองอย่างสนใจ
•ยิ้มและพยักหน้าให้ ถ้าเด็กหันมาหาครู
•ไม่ชมเชยหรือสนใจเด็กมากเกินไป
•เอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม เพื่อยืดเวลาการเล่น
•ให้ความคิดเห็นที่เป็นแรงเสริม
การให้แรงเสริมทางสังคมในบริบทที่เด็กเล่น
•ครูพูดชักชวนให้เด็กร่วมเล่นกับเพื่อน
•ทำโดย “การพูดนำของครู”
ช่วยเด็กทุกคนให้รู้กฎเกณฑ์
•ไม่ง่ายสำหรับเด็กพิเศษ
•การให้โอกาสเด็ก
•เด็กพิเศษต้องเรียนรู้สิทธิต่างๆเหมือนเพื่อนในห้อง
•ครูต้องไม่ใช้ความบกพร่องของเด็กพิเศษเป็นเครื่องต่อรอง
2. ทักษะภาษา
การวัดความสามารถทางภาษา
•เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
•ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วยไหม
•ถามหาสิ่งต่างๆไหม
•บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
•ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
การออกเสียงผิด / พูดไม่ชัด
•การพูดตกหล่น
•การใช้เสียงหนึ่งแทนอีกเสียง
•ติดอ่าง
การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
•ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
•ห้ามบอกเด็กว่า “พูดช้าๆ” “ตามสบาย” “คิดก่อนพูด”
•อย่าขัดจังหวะขณะเด็กพูด
•อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
•ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
•เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวข้องกับการได้ยิน
•เกิดผลดีในระยะยาว
•เน้นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เด็กสามารถใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆแทนการฝึกแต่เพียงทักษะทางวิชาการ
•แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
(Individualized Education Program; IEP)
•โรงเรียนการศึกษาพิเศษเฉพาะทาง โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน
2.การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
•การฝึกฝนทักษะในชีวิตประจำวัน
(Activity of Daily Living Training)
•การฝึกฝนทักษะสังคม (Social Skill Training)
•การสอนเรื่องราวทางสังคม (Social Story)
3. การบำบัดทางเลือก
•การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
•ศิลปกรรมบำบัด (Art Therapy)
•ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
•การฝังเข็ม (Acupuncture)
•การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)
การสื่อความหมายทดแทน
(Augmentative and Alternative Communication ; AAC)
•การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies)
•โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (Picture Exchange Communication System; PECS)
•เครื่องโอภา (Communication Devices)
•โปรแกรมปราศรัย
Picture Exchange
Communication System
(PECS)
บทบาทของครู
•ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้นั่งติดหน้าต่างหรือประตู
•ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
•จัดให้เด็กนั่งติดกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
•ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง
การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
1. ทักษะทางสังคม
•เด็กพิเศษที่ขาดทักษะทางสังคม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการพ่อแม่
•การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าเด็กจะมีพัฒนาการต่างๆอย่างมีความสุข
กิจกรรมการเล่น
•การเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ทักษะทางสังคม
•เด็กจะสนใจกันเองโดยอาศัยการเล่นเป็นสื่อ
•ในช่วงแรกๆ เด็กจะไม่มองเด็กคนอื่นเป็นเพื่อน แต่เป็นอะไรบางอย่างที่น่าสำรวจ สัมผัส ผลัก ดึง
ยุทธศาสตร์การสอน
•เด็กพิเศษหลายๆคนไม่รู้วิธีเล่น ไม่รู้ว่าจะเล่นอย่างไร
•ครูเริ่มต้นจากการสังเกตเด็กแต่ละคนอย่างเป็นระบบ
•จะบอกได้ว่าเด็กมีทักษะการเล่นแบบใดบ้าง
•ครูจดบันทึก
•ทำแผน IEP
การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง
•วางแผนกิจกรรมการเล่นไว้หลายๆอย่าง
•คำนึงถึงเด็กทุกๆคน
•ให้เด็กเล่นเป็นกลุ่มเล็กๆ 2-4 คน
เด็กปกติทำหน้าที่เหมือน “ครู” ให้เด็กพิเศษ
ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น
•อยู่ใกล้ๆ และเฝ้ามองอย่างสนใจ
•ยิ้มและพยักหน้าให้ ถ้าเด็กหันมาหาครู
•ไม่ชมเชยหรือสนใจเด็กมากเกินไป
•เอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม เพื่อยืดเวลาการเล่น
•ให้ความคิดเห็นที่เป็นแรงเสริม
การให้แรงเสริมทางสังคมในบริบทที่เด็กเล่น
•ครูพูดชักชวนให้เด็กร่วมเล่นกับเพื่อน
•ทำโดย “การพูดนำของครู”
ช่วยเด็กทุกคนให้รู้กฎเกณฑ์
•ไม่ง่ายสำหรับเด็กพิเศษ
•การให้โอกาสเด็ก
•เด็กพิเศษต้องเรียนรู้สิทธิต่างๆเหมือนเพื่อนในห้อง
•ครูต้องไม่ใช้ความบกพร่องของเด็กพิเศษเป็นเครื่องต่อรอง
2. ทักษะภาษา
การวัดความสามารถทางภาษา
•เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
•ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วยไหม
•ถามหาสิ่งต่างๆไหม
•บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
•ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
การออกเสียงผิด / พูดไม่ชัด
•การพูดตกหล่น
•การใช้เสียงหนึ่งแทนอีกเสียง
•ติดอ่าง
การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
•ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
•ห้ามบอกเด็กว่า “พูดช้าๆ” “ตามสบาย” “คิดก่อนพูด”
•อย่าขัดจังหวะขณะเด็กพูด
•อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
•ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
•เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวข้องกับการได้ยิน
ทักษะพื้นฐานทางภาษา
•ทักษะการรับรู้ภาษา
•การแสดงออกทางภาษา
•การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
•ทักษะการรับรู้ภาษา
•การแสดงออกทางภาษา
•การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น